Etsy แพลตฟอร์มขายสินค้าทำมือออนไลน์ประกาศทำโปรโมชั่นส่งสินค้าฟรีในสหรัฐฯ เมื่อสั่งสินค้าราคา 35 ดอลลาร์ขึ้นไป สินค้าที่ส่งฟรีจะปรากฏในช่อง search และทางบริษัทจะทำการโปรโมทแคมเปญผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและทีวีในสหัฐฯด้วย เริ่มตั้งแต่ 30 ก.ค.นี้ ปรากฏว่าโดนกระแสตีกลับจากคนขาย

เหตุผลรวมๆ ของคนขายคือ Etsy แพลตฟอร์มขายของที่เป็นเอกลักษณ์กำลังดำเนินรอยตามอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Amazon, Walmart ที่เขามีกำลังทรัพย์สามารถในการตั้งราคาสินค้าและทำโปรโมชั่นส่งฟรีได้ แต่สำหรับผู้ค้ารายเล็กบน Etsy นั้นไม่ใช่ พวกเขาต้องตั้งราคาส่งเต็มๆ เข้าไปในราคาสินค้าด้วยซึ่งจะเป็นภาระหนักกับคนซื้อ

แม้ในประกาศต้นทางของ Etsy จะระบุว่า ผู้ขายสามารถตั้งราคาเพื่อให้ครอบคลุมการจัดส่งฟรีได้ผ่านเครื่องมือตั้งราคาที่ Etsy จะเปิดตัวสำหรับผู้ขายในสัปดาห์ถัดไป ยืนยันว่าผู้ขายไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าส่งเองเพื่อให้สินค้าขายได้ แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เพียงพอที่จะบรรเทาข้อวิจารณ์ลงได้

ภาพจาก Etsy บน Facebook

Etsy was not meant to be a big-box retailer. It's whole appeal is that it's a marketplace where individual artists could offer their crafts. Something original, handmade, one of a kind. It's sad that it's making sellers follow what big corporate giants can afford. 2/5

— Kitty 🔜 Crunchyroll Expo (@Kittygorian) July 9, 2019

ที่มา - Engadget

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำของแอปเปิล ที่มีประวัติให้ข้อมูลได้แม่นยำที่สุด ออกรายงานข้อมูล iPhone รุ่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้เขาบอกว่า iPhone รุ่นปี 2020 จะเป็นครั้งแรกที่กล้องหน้าอยู่ใต้หน้าจอ ทำให้ไม่เกิดติ่งแบบรุ่นที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์จาก Credit Suisse ให้ข้อมูลคล้ายกันว่านอกจาก iPhone ปี 2020 จะไม่มีติ่งกล้องหน้าแล้ว ยังมีตัวสแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอเพิ่มด้วย ทำให้ Touch ID จะกลับมาอีกครั้งใน iPhone รุ่นใหม่

จากข้อมูลสองแหล่งทำให้สรุปแนวโน้ม iPhone สามปีข้างหน้าดังนี้

• 2019 iPhone ออกมา 3 รุ่น ใช้ Face ID และมีติ่งกล้องหน้าเหมือนเดิม
• 2020 iPhone 2 รุ่น ใช้ Face ID ติ่งกล้องหน้าเล็กลง และอีก 1 รุ่น หน้าจอเต็ม ไม่มีติ่งกล้องหน้า รองรับ Touch ID
• 2021 iPhone 3 รุ่น หน้าจอเต็มพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งรองรับ Touch ID

ที่มา: MacRumors

LINE ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ คือ ดร.พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา มีผลตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะขึ้นตรงต่อ อึนจองลี รองประธานกรรมการอาวุโสฯ หน่วยงานพัฒนาธุรกิจสากล 2 บริษัท LINE Plus คอร์ปอเรชั่น

ดร.พิเชษฐ์ ร่วมงานกับ LINE ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2559 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ มีประสบการณ์เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ อยู่ที่ กูเกิล ประเทศไทย จำกัด และเคยเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออเร้นจ์ ประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเพิ่มเติมได้แก่ นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์, นายกณพ ศุภมานพ เป็นรองประธานเจ้าหน้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนท์ และ นายชาญวุฒิ ลือชัยสิทธิ์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการตลาด

ที่มา: อีเมลประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์ The Verge พบเอกสารที่นินเทนโดยื่นต่อหน่วยงานจัดการการสื่อสารของอเมริกา FCC เพื่อขอเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนภายใน Nintendo Switch ซึ่งคาดว่าจะมีการอัพเกรดย่อยฮาร์ดแวร์ภายในนั้น ซึ่งเคยมีข่าวลือก่อนหน้านี้และตรงไปแล้วหนึ่งข่าวคือ Nintendo Switch Lite

รายละเอียดของฮาร์ดแวร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย SoC (CPU+GPU) และหน่วยความจำ NAND ตลอดจนเมนบอร์ดเพื่อรองรับการเปลี่ยนของ CPU แต่ไม่ได้ระบุว่าสเป็กใหม่จะเร็วขึ้นหรือความจุเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด

Nintendo Switch รุ่นปัจจุบันใช้ซีพียู Tegra X1 ของ Nvidia ที่ออกมานานถึง 4 ปีแล้ว การอัพเกรดฮาร์ดแวร์นั้นจึงสมเหตุสมผลในแง่ต้นทุนการผลิต มากกว่าจะใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าต่อไป

ที่มา: The Verge

จากข่าว WarnerMedia ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือ AT&T ประกาศชื่อสตรีมมิ่งใหม่เป็น HBO Maxทำให้หลายคนอาจสับสนว่า แล้วแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่ง HBO GO และ HBO Now ที่มีอยู่คืออะไร มีความแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร ทำไมต้องมีแยกกันหลายชื่อ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใช้งาน HBO GO และ HBO Now อยู่แล้ว

ขออธิบายเริ่มที่ HBO Go และ HBO Now ก่อน

HBO Nowคือ สมาชิกแบบออนดีมานด์ เพื่อดูผ่านทีวี มือถือ แท็บเล็ตได้ ผู้ใช้งานสามารถสมัครใช้งานตรงกับ HBO ได้เลยในราคา 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีใดๆ มาก่อน

ปัจจุบัน HBO Now ให้บริการแค่ในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวเท่านั้น

ส่วน HBO Goบริการวิดีโอออนไลน์ออนดีมานด์แบบแพ็กเกจเสริม (add-on) สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกเคเบิลทีวีหรือบริการทีวีออนไลน์อยู่แล้ว และต้องการดูเนื้อหาของ HBO แบบสตรีมมิ่งเพิ่มเติม โดยเป็นการจ่ายเงินค่าสมาชิกให้กับผู้ให้บริการในแต่ละประเทศแทน ไม่ได้จ่ายให้ HBO โดยตรง (ตัวอย่างในประเทศไทยคือสมัครผ่านแอพ AIS Play)

การผูก HBO Go กับผู้ให้บริการรายอื่น ทำให้คอนเทนต์ HBO สามารถส่งไปถึงกลุ่มคนดูนอกสหรัฐฯ ได้กว้างขึ้น ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการในแต่ละประเทศ มีโปรโมชั่นอะไร อย่างใน AIS Play ถ้าจะดูคอนเทนต์ HBO ก็ต้องจ่าย 199, 299, 399 บาทต่อเดือน

ปัจจุบัน HBO GOมีให้บริการในสหรัฐฯ อังกฤษ ไทย เวียดนาม โปรตุเกส สเปน ฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์มาเลเซีย

กล่าวโดยสรุปคือ HBO Go และ HBO Now คอนเทนต์เหมือนกัน แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่พื้นที่ให้บริการและวิธีที่ผู้ใช้งานเลือกรับบริการนั่นเอง

HBO Max

ตัดมาที่ HBO Max ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ นั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผลต่อ HBO GO และ HBO Now อย่างไร รวมถึงยังไม่รู้ว่าราคาเท่าไรด้วย แต่สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือ "คอนเทนต์"เยอะกว่า HBO Go และ HBO Now อย่างเห็นได้ชัด

ในแถลงการณ์ของ Time Warner ระบุว่านอกเหนือจากคอนเทนต์ HBO ที่ขึ้นชื่ออย่าง Game of Thrones, Westword แล้ว ยังจะมีคอนเทนต์จากผู้ผลิตคอนเทนต์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ WarnerMedia อย่าง Warner Bros., New Line, DC Entertainment, CNN, TNT, TBS, truTV, The CW, Turner Classic Movies, Cartoon Network, Adult Swim, Crunchyroll, Rooster Teeth, Looney Tunes เป็นต้น

ตัวแทนของ HBO บอกกับเว็บไซต์ Fast Company ว่าการเปิดตัวของ HBO Max จะไม่ส่งผลต่อ HBO Go หรือ HBO Now ของเดิม โดย HBO Max จะเป็นบริการอีกตัวที่แตกต่างออกไป สมาชิก HBO Go หรือ HBO Now จะไม่ถือว่าเป็นสมาชิก HBO Max และต้องสมัครบริการแยกต่างหาก

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่จะได้เห็นบน HBO Max

ในประกาศเปิดตัว HBO Max ทางบริษัท WarnerMedia เผยรายชื่อคอนเทนต์ที่ทั้ง original contents และ คอนเทนต์ลิขสิทธิ์ต่างๆ ดังนี้

• Friends ทั้ง 10 ซีซั่น
• The Fresh Prince of Bel-Air ซีรีส์ซิทคอม
• Pretty Little Liars
• คอนเทนต์จากช่อง CW Shows ที่มี Warner เป็นเจ้าของ
• คอนเทนต์จาก DC Entertainment เช่น Batwoman, Katy Keene

ตัวอย่าง original contents บน HBO Max

• Dune ภาคซีรีส์สร้างจากนิยายไซไฟเรื่อง Dune: The Sisterhoodเขียนโดย Brian Herbert และ Kevin Anderson
• Tokyo Viceสารดคีเรื่องของนักข่าวชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่น
• The Flight Attendantซีรีส์ระทึกขวัญที่อิงจากนวนิยายของ Chris Bohjalian
• Love Lifeซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ นำแสดงโดย Anna Kendrick จาก Pitch Perfect
• Station Elevenดัดแปลงจากนิยายแนวดิสโทเปีย
• Gremlinsเป็นแอนิเมชั่นสร้างโดย Warner Bros. Animation และ Amblin Entertainment
• Crime Farmซีรีส์ดราม่าทีได้ดารารุ่นเก๋า Nicole Kidman มาเป็นโปรดิวเซอร์เอง

HBO Max จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 และคาดว่าคงจะโฟกัสแค่ในตลาดสหรัฐฯก่อนในช่วงแรก คนไทยก็คงต้องรอไปอีกสักพักใหญ่

ที่มา - Fast Company, Variety

The Wall Street Journal รายงานว่า McAfee ได้เริ่มพูดคุยกับสถาบันการเงินหลายแห่ง เพื่อเตรียมนำบริษัทไอพีโอกลับเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยเบื้องต้นต้องการเงินขายหุ้นเพิ่มทุนราว 1,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากการได้เงินเพิ่มทุนเพื่อใช้ในธุรกิจแล้ว อีกเหตุผลที่เชื่อว่าดึงดูดให้ McAfee ตัดสินใจกลับเข้าตลาดหุ้น คือกระแสของหุ้นเทคโนโลยีที่พากันไอพีโอเข้าตลาดหุ้นช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่ดี

McAfee เคยเข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 1999 แต่ออกจากตลาดไปในปี 2011 หลังอินเทลเข้าซื้อกิจการทั้งหมด ซึ่งปัจจุบัน McAfee มีสถานะเป็นบริษัทร่วมทุน ที่มีอินเทลถือหุ้นอยู่ 49%

ที่มา: Business Insider

ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศลงทุนใน GOJEK หรือที่ทำการตลาดในชื่อ GET ในไทยในซีรีส์ F สร้างโซลูชั่นทางการเงินทั้งกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ร้านค้า และคนขับ GET ผลของความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นคือ

• สินเชื่อดิจิทัล รวมถึงประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุในกลุ่มคนขับ GET
• เติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ GET Pay ผ่าน SCB Easy หรือการนำเงินออกจาก GET Pay เข้าบัญชีไทยพาณิชย์แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม

ด้าน นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประะานเข้าหน้าที่บริหาร GET ระบุว่า ปัจจุบัน GET มีบริการ 4 ตัวคือ ส่งคนคือ GET Win, ส่งอาหาร Get Food, ส่งพัสดุ Get Delivery และ Get Pay กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่จะเชื่อมบริการทั้งหมดผ่านการจ่ายเงินในช่องทางนี้

เมื่อเข้าไปในแอพพลิเคชั่น GET จะเห็นทางเลือกและฮาวทูเติมเงินจาก SCB Easy และ K Plus และเข้ามาที่ GET Pay ได้ด้วย

ทางธนาคารระบุว่าอนาคตจะต่อยอดไปสู่การชำระเงินแบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ เช่นกลุ่มค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย รวมถึงพันธมิตรระดับสากลเพื่อสร้างการเติบโตต่อไป

ก่อนหน้านี้ K Bank ก็ประกาศลงทุนใน Grab และได้เปิดตัวเปิดตัว GrabPay Wallet เชื่อมกับ K PLUSออกมาและมีตัวเลือกให้ subscription ด้วย

แอปเปิลได้ปิดการทำงานของแอป Walkie Talkie บน Apple Watch เป็นการชั่วคราว โดยแอปเปิลให้เหตุผลว่าพบช่องโหว่ ซึ่งอาจทำให้บุคคลอื่นสามารถดักฟังข้อความเสียงที่ส่งหากันได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งแอปเปิลจะกลับมาเปิด Walkie Talkie ให้ใช้งานได้อีกครั้ง เมื่อแก้ไขปัญหานี้สมบูรณ์

แอป Walkie Talkie มีไว้สำหรับส่งข้อความสั้นหากันระหว่างผู้ใช้ Apple Watch เริ่มมีตั้งแต่ watchOS 5และเป็นแอปพื้นฐานที่อยู่บน watchOS ฉะนั้นตัวแอปจะยังคงอยู่ เพียงแต่ไม่สามารถใช้งานได้

รูปแบบช่องโหว่ที่แอปเปิลระบุนั้น มีลักษณะคล้ายกับบั๊ก FaceTimeเมื่อต้นปี ซึ่งเป็นช่องโหว่ร้ายแรงและแอปเปิลได้ออกมาขอโทษรวมทั้งได้ปรับปรุงช่องทางการรายงานช่องโหว่

ที่มา: TechCrunch

หลังการเจรจาทวิภาคีที่การประชุม G20 จะเป็นไปในทางบวกซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลสหรัฐระบุว่าบริษัทสหรัฐสามารถทำธุรกิจกับ Huawei เฉพาะสินค้าที่วางขายทั่วโลกและ Huawei จะยังคงอยู่ใน Entity List ของกระทรวงพาณิชย์ที่บริษัทสหรัฐจะต้องขออนุมัติก่อนทำธุรกิจทุกครั้ง

ล่าสุด Wilbur Ross รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันอีกครั้งว่า Huawei จะยังคงอยู่ใน Entity List เช่นเดิม พร้อมชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมสืบเนื่องจากการประชุม G20 ว่ากระทรวงพาณิชย์จะอนุมัติให้บริษัทสหรัฐทำการค้ากับ Huawei เฉพาะกรณีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น (ซึ่งก็น่าจะหนีไม่พ้นเรื่อง 5G)

สรุปคือสถานการณ์ตอนนี้ของ Huawei ในทางกฎหมายแทบไม่ได้แตกต่างจากตอนนี้ Trump ประกาศคำสั่งประธานาธิบดี ทว่าในทางปฏิบัติ จากการประชุม G20 และคำยืนยันจากรัฐมนตรี Ross พอจะชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงบ้างและอาจทำให้ผู้ใช้งานใจชื้นขึ้นได้บ้างว่าสินค้า Huawei ฝั่งผู้บริโภคมีแนวโน้มจะยังใช้งานหรือได้ซัพพอร์ทต่อไปเหมือนเดิม แต่ก็น่าจะต้องรอคำยืนยันจากบริษัทที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ (อาทิ Google / Microsoft) อีกครั้ง

ที่มา - The New York Times

Google ร่วมเป็นหนึ่งในกระแส Stranger Things ฟีเวอร์กับเขาด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถใช้ Google Lens ส่องโฆษณาซีรีส์ Stranger Things บนหนังสือพิมพ์ New York Times และจะปรากฏภาพเคลื่อนไหวในจอสไตล์ AR ด้วย

เนื้อหาโฆษณาที่แสดงผ่านหน้าจอ Google Lens ไม่ใช่เทรลเล่อร์ซีรีส์ แต่เป็นบรรยากาศและแฟชั่นในยุค 80 มีห้าง Starcourt ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในซีรีส์โผล่ขึ้นมาด้วย

Google ระบุว่าได้ร่วมมือกับนิตยสารและพิพิธภัณฑ์ในการใช้งานเทคโนโลยี Google ให้สิ่งพิมพ์และวัตถุในพิพิธภัณฑ์สามารถมีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยเทคโนโลยี AR

ที่มา - Google Blog

Amazon ประกาศทุ่มงบ 700 ล้านดอลลาร์ในการพัฒนาทักษะใหม่ให้พนักงานแสนคนภายในปี 2025 ครอบคลุมพนักงานทุกส่วนทั้งสำนักงานใหญ่ ตามโกดังสินค้า และพนักงานร้านค้า

โดย 700 ล้านดอลลาร์คิดเป็นราคาต่อหัวเท่ากับ 7,000 ดอลลาร์ ครอบคลุมจำนวนพนักงาน 1 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมดใน Amazon สหรัฐฯ โดย Amazon ระบุตัวอย่างโครงการพัฒนาทักษะว่า คนงานในศูนย์การปฏิบัติงานอาจได้รับการฝึกอบรมใหม่ในฐานะช่างเทคนิคไอที แลพนักงานด้านอื่นที่ไม่ได้ใช้ทักษะไอทีก็อาจได้ฝึกทักษะวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เป็นต้น และยังมีโปรแกรมพัฒนาทักาะที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรงอย่าง ทักษะพยาบาล ทักษะช่างอากาศยาน ด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาพร้อมกับข้อครหาว่า Amazon ใช้แรงงานหนักโดยเฉพาะกับพนักงานในโกดังที่ถูกกดดันเรื่องเวลาทำงานมาก การออกโครงการพัฒนาทักษะงานอาจช่วยทำให้สังคมรู้สึกว่าอย่างน้อย Amazon ก็ยังใส่ใจพนักงานอยู่

ภาพจาก Amazon

ที่มา - The Verge

ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อยฟีเจอร์ล็อกอินโดยไม่ใช้รหัสผ่าน (passwordless login) บนบริการ Azure AD ให้ทุกองค์กรใช้งานแล้วหลังจากประกาศฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

ฟีเจอร์นี้เปิดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ผ่านทางกุญแจ FIDO2 (ต้องเวอร์ชั่น 2 เท่านั้น) หรือผ่านทางแอป Microsoft Authenticator ที่จะแจ้งเตือนเมื่อมีการล็อกอิน แล้วให้กดยืนยันจากในแอป

ไมโครซอฟท์ประกาศแนวทางการลดใช้รหัสผ่านด้วย FIDO 2.0 มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2015โดยก่อนหน้านี้เริ่มใช้งานใน Windows Hello มาก่อนแล้ว และหลังจากนี้ก็เริ่มใช้งานในระดับองค์กรได้แล้ว

ฟีเจอร์นี้เปิดได้จากคอนโซล Azure AD แต่ยังเป็นระดับพรีวิวอยู่ การใช้งานในองค์กรใหญ่ๆ ก็อาจจะควรรอให้นิ่งกว่านี้สักระยะ ส่วนกุญแจ FIDO2 ไมโครซอฟท์ทำโปรโมชั่นร่วมกับผู้ผลิตสามรายหลัก ได้แก่ FEITIAN, Yubico, และ HID Global มีส่วนลดพิเศษในช่วงนี้ด้วย

ที่มา - Azure Active Directory Identity Blog

Waymo บริษัทรถยนต์ไร้คนขับของ Alphabet ประกาศหลักไมล์สำคัญครั้งใหม่ว่าตอนนี้รถยนต์ในระบบ simulator ทดสอบการขับได้ระยะทางถึงหนึ่งหมื่นล้านไมล์แล้ว

Dmitri Dolgov ซีทีโอของ Waymo กล่าวในงาน Sessions: Mobility ของ TechCrunch ว่า ตอนนี้ ​Waymo ขับรถได้ถึงสิบล้านไมล์บนถนนจริงแล้ว ส่วนบนระบบจำลองก็ขับไปได้ถึงหนึ่งหมื่นล้านไมล์ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วถือเป็นจะช่วยเติมเต็มความสามารถของระบบให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

Dolgov ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เขาคิดว่าสิ่งที่ทำให้ simulator นั้นดีและมีประสิทธิภาพมีสองอย่าง หนึ่งคือความแม่นยำ ซึ่งความแม่นยำนั้นไม่ใช่ที่ดูดีแค่ไหน แต่หมายถึงปฏิบัติอย่างไร ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะต้องพบในโลกแห่งความจริง ส่วนอย่างที่สองคือขนาด

สำหรับ Waymo แล้ว การขับรถในระบบ simulator สำคัญมาก เนื่องจากในระบบเป็นการทดสอบเสมือนจริง เมื่อประกอบกับการทดสอบบนท้องถนนจริง ๆ แล้ว ดาต้าเซ็ทที่เก็บมานี้จะมีประโยชน์มากในการเทรนนิ่งซอฟต์แวร์

ที่มา - TechCrunch

ภาพจาก Waymo

Leica เปิดตัวกล้องคอมแพคใหม่ V-Lux 5 เป็นกล้อง Panasonic Lumix DC-FZ1000 II ที่ถูกนำมารีแบรนด์ใหม่ในชื่อของ Leica รวมถึงถูกออกแบบใหม่เล็กน้อยให้เข้ากับสไตล์การออกแบบของ Leica

สำหรับสเปคของ Leica V-Lux 5 นั้นแทบไม่ได้ต่างจากต้นฉบับมากนัก เช่น ปรับแฟลชแบบป๊อปอัพให้ทำงานได้สมูทขึ้น, เกลามุมให้มนกว่าเดิม, ติดแบรนด์ Leica พร้อมจุดแดง

สเปคของตัวกล้องจะยังคงเหมือน FZ1000 II ซึ่งเป็นรุ่นต้นฉบับ คือใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้ว 20 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Vario-Elmarit ระยะเทียบเท่า 24-400mm F2.8-4 ASPH ที่มีช่วงกว้างเพียงพอต่อการใช้งานหลายรูปแบบ, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 24, 25 และ 30 เฟรมต่อวินาที มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ 2.36 ล้านพิกเซลแบบ OLED กำลังขยาย 0.74 เท่า ส่วนจอหลังมีขนาด 3 นิ้ว 1.24 ล้านพิกเซล พร้อมระบบสัมผัสและปรับหมุนได้

ส่วนการเชื่อมต่อ Leica V-Lux 5 มี Bluetooth และ Wi-Fi สำหรับเชื่อมต่อกับแอป Leica FOTOS โดยน้ำหนักของตัวกล้องอยู่ที่ 812 กรัม

Leica V-Lux 5 วางจำหน่ายที่ราคา 1,250 ดอลลาร์ หรือราว 38,000 บาท

ที่มา - dpreview

Sigma เปิดตัว fp กล้องฟูลเฟรมแบบ mirrorless รุ่นใหม่ ใช้เมาท์ L พร้อมขนาดกะทัดรัดในระดับที่ Sigma เคลมว่าเล็กและเบาที่สุดในโลก

สเปคของตัวกล้อง Sigma fp ใช้เซนเซอร์ BSI-CMOS 24.6 ล้านพิกเซล พร้อม Bayer color filter มี ISO ช่วงระหว่าง 100-25600 ขยายได้ถึงช่วง 6-102400 ถ่ายภาพ RAW DNG ได้ถึง 14 บิต ใช้ระบบออโต้โฟกัสเป็น contrast-detection ที่ Sigma เคลมว่าสามารถใช้ได้ที่แสงต่ำสุด -5EV ส่วนชัตเตอร์เป็นอิเล็กทรอนิกส์ล้วน รองรับ Eye AF และ HDR

ในด้านวิดีโอนั้น ตัวกล้องรองรับการถ่ายวิดีโอ 12-bit UHD 4K/24p DNG มี waveform monitor, ระบบควบคุมมุมชัตเตอร์ และ timecode ให้ใช้งาน มีโหมดผู้กำกับให้ทดลองพรีวิววิดีโอที่ aspect ratio อื่น ๆ ด้วย

นอกจากนี้ Sigma ยังใส่ heatsink เพื่อช่วยระบายความร้อนในตัวกล้องเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดความร้อนภายในตัวกล้องระหว่างการอัดวิดีโอได้

ส่วนขนาดของตัวกล้องนั้นถือว่ากะทัดรัดมาก มิติตัวกล้องอยู่ที่ 113 x 70 x 45 มิลลิเมตร น้ำหนัก 370 กรัม ตัวบอดี้ซีลกันสภาพอากาศ ส่วนจอหลังกล้องมีขนาด 3.2 นิ้ว 2.1 ล้านจุด รองรับการสัมผัส มีพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI, flash sync, USB 3.1, ชัตเตอร์แยก, และไมโครโฟน

Sigma fp จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนราคาจะเปิดเผยในภายหลัง

นอกจาก Sigma fp แล้ว Sigma ยังแย้มข้อมูลกล้องที่ใช้เซนเซอร์ Foveon ด้วย โดยตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนนัก บอกเพียงว่าจะมี 20 ล้านพิกเซลต่อเลเยอร์เท่านั้น

ที่มา - dpreview

Twitter ล่มทั่วโลกตั้งแต่ช่วงเวลาเกือบตีสองตามเวลาประเทศไทย โดยผลตรวจสอบพบว่าการล่มนี้เป็นแทบทั้งโลก

เว็บ downdetector.comรายงานเหตุล่มพบว่ากระจายไปตามประเทศที่ใช้งานทวิตเตอร์สูงๆ เช่น สหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น, อินเดีย, และบราซิล

ระหว่างล่มผมพบว่า ไม่สามารถโหลดทวีตใหม่ได้ จากนั้นบัญชีถูกล็อกเอาท์เอง และเมื่อพยายามล็อกอินกลับเข้าไปก็พบหน้ารายงานปัญหา

ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา บริการสำคัญๆ ล่มในเดือนนี้ ได้แก่ Cloudflare, Facebook, และ iCloud

ไมโครซอฟท์อัพเดตตัวเลขของ Microsoft Teams บริการแชทสำหรับที่ทำงาน ซึ่งออกมาเพื่อแข่งกับ Slack โดยบอกว่ามีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (Daily Active Users - DAUs) เกิน 13 ล้านคนแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์ (WAUs) จะเพิ่มเป็น 19 ล้านคน

นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังระบุรายชื่อลูกค้าองค์กรดัง ที่ใช้ Microsoft Teams เป็นเครื่องมือหลัก อาทิ Emirates, FedEx, Lexmark, กลุ่ม Adecco เป็นต้น

จำนวนผู้ใช้งานนี้น่าจะแซง Slack ไปเรียบร้อย โดยตัวเลขจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดที่ Slack เปิดเผยคือ 10 ล้านคน

ที่มา: ไมโครซอฟท์

บริษัทวิจัยตลาด IDC และ Gartner ออกรายงานตัวเลขยอดขายพีซีทั่วโลก ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2019 โดยทั้งสองค่ายมองเหมือนกันว่าภาพรวมตลาดกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังตลาดทรงตัวหรือลดลงมาตลอด 6 ปี

โดย IDC ให้ตัวเลขการเติบโต 4.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 64.9 ล้านเครื่อง ส่วน Gartner ให้ตัวเลขโต 1.5% มียอดส่งมอบ 63 ล้านเครื่อง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายพีซีเติบโตมาจากการอัพเกรดคอมพิวเตอร์เป็น Windows 10 ในกลุ่มลูกค้าองค์กร ก่อนที่ Windows 7 จะหยุดสนับสนุนในปีหน้า รวมทั้งปัญหาซีพียูอินเทลขาดตลาดก็ดีขึ้นมาก ส่วนประเด็นสงครามการค้าอเมริกา-จีน ไม่ส่งผลต่อยอดขายมากนัก

ส่วนแบ่งการตลาดนั้น ทั้ง IDC และ Gartner ให้อันดับ 1-2-3 เหมือนกันคือ เลอโนโว, เอชพี และเดลล์ ตามลำดับ ส่วนอันดับ 4-5 IDC ให้ เอเซอร์ ตามด้วยแอปเปิล ขณะที่ Gartner บอกว่าสลับกับ

ที่มา: IDC, Gartnerและ VentureBeat

ตามที่ Facebook เคยประกาศก่อนหน้านี้โดยเมื่อผู้ใช้งานเห็นโฆษณาในหน้าฟีด แล้วเลือกปุ่ม Why am I seeing this? จากเดิมที่เราจะเห็นข้อมูลคร่าว ๆ ว่า ข้อมูลส่วนตัวใดของเราที่ทำให้เป็นปัจจัยถูกแสดงโฆษณาแบบเจาะกลุ่มนี้ คราวนี้ Facebook ขยายข้อมูลให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น

โดยข้อมูลใหม่ที่เพิ่มเข้ามา จะระบุไปถึงระดับว่าพาร์ทเนอร์หรือบริษัทใด ที่อัพโหลดข้อมูลของเราไปให้ รวมทั้งแบรนด์หรือบริษัทโฆษณาใดที่ใช้ข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งมีระบุว่าข้อมูลส่วนตัวเรานั้น มาจากพฤติกรรมใด (เช่นกดไลก์เพจไหน เข้าชมเว็บอะไร) และเราสามารถเลือกกำหนดการตั้งค่าข้อมูลเหล่านี้ได้

นอกจากนี้ยังมีหน้า Ad Preferences ที่จะแสดงข้อมูลบริษัทโฆษณา และธุรกิจที่มีการใช้ข้อมูลของเรา ซึ่งทำให้เราเห็นข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น และเลือกจำกัดการเข้าถึงได้

ที่มา: Facebook

อยู่ๆ Donald Trump ก็เปิดศึกกับสายเหรียญ เมื่อเจ้าตัวทวีตว่าตัวเขาเองไม่ได้ชื่นชอบบิทคอยน์หรือเงินคริปโตเท่าไหร่นัก เพราะเขามองว่าของเหล่านี้ไม่ใช่เงิน มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับอากาศธาตุและไม่มีความแน่นอนเลย ขณะที่เงินคริปโตที่ไม่ถูกควบคุมก็มีโอกาสจะถูกนำไปเป็นเครื่องมือของการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ยังพูดถึง Libra ของ Facebook ด้วยว่ามันจะมีความน่าเชื่อถือต่ำ หาก Facebook หรือบริษัทอื่นๆ ต้องการจะทำตัวเป็นธนาคาร ก็ควรจะยื่นเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตในการเป็นธนาคารและเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเหมือนธนาคารอื่นๆ

โครงสร้างของ Libra เองเป็นโครงสร้างสองชั้น ตัวเงิน Libra ไม่ได้ขออนุญาตจากชาติใดชาติหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ตั้งสำนักงานบริหารกองทุนสำรองอยู่ในเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ตัวบริการที่ผู้ใช้ทั่วไปจะใช้งานได้นั้น ทางเฟซบุ๊กตั้งบริษัท Calibra เป็นบริษัทลูกที่ระบุว่าจะทำตามกระบวนการกำกับดูแลในสหรัฐฯ เต็มที่

สุดท้าย Trump ชี้ว่าสหรัฐมีสกุลเงินเดียวคือดอลลาร์ เป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่ง เชื่อถือได้และเป็นสกุลเงินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว และมันก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังการทวีตของ Trump ฝั่งตลาดเหรียญแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก มูลค่าของ Bitcoin ล่าสุดอยู่ที่ 11,305 เหรียญต่อ BTC

ที่มา - @realDonaldTrump

....Similarly, Facebook Libra’s “virtual currency” will have little standing or dependability. If Facebook and other companies want to become a bank, they must seek a new Banking Charter and become subject to all Banking Regulations, just like other Banks, both National...

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) July 12, 2019

...and International. We have only one real currency in the USA, and it is stronger than ever, both dependable and reliable. It is by far the most dominant currency anywhere in the World, and it will always stay that way. It is called the United States Dollar!

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) July 12, 2019